ขนมนุ่มหนึบหนับเป็นของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดนครสวรรค์หนึ่งในนั้นต้องเป็น ขนมโมจิ อย่างแน่นอน โดยลักษณะทั้งไปของขนมโมจิ นครสวรรค์ จะเป็นขนมประเภทอบ ทรงกลมค่อนแบน เนื้อสัมผัสแป้งมีความนุ่มนวล มีทั้งไส้เค็มไส้หวาน มีหลากรสหลายกลิ่นให้เลือกสรร ซึ่งลักษณะแทบจะเหมือนกันทุกประการกับ ขนมโมจิ จากประเทศญี่ปุ่นเลย
แล้วจุดต่างมันคืออะไร หรือ โมจิ นครสวรรค์ จะมาจากญี่ปุ่นจริง ๆ !?
ขนมโมจิ นครสวรรค์ ทำจากแป้งสาลี นมข้นหวาน นมสด และเนย ตบท้ายด้วยการอบ ส่วนไส้ทำจากถั่วกวนที่ผ่านกรรมวิธีนึ่งสุก นำมายี และวนเข้ากับมะพร้าวและน้ำตาล จากนั้นนำมาปั้นเป็นลูกและอบควันเทียนหนึ่งคืน เมื่อไส้พร้อมก็นำมาห่อแป้งที่ทำไว้เป็รอันเสร็จ ซึ่งแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า ขนมเปี๊ยะนมข้น เพราะมีนมข้นเป็นส่วนผสมหลักและเป็นวัตถุดิบที่ทำให้แป้งเหนียวนุ่ม ส่วน โมจิ ของญี่ปุ่น ใช้แป้งที่ทำจากข้าวด้วยการตำจนเหนียวนุ่มด้วยครกไม้ นิยมทานในเทศกาลสำคัญ ทั้งมีประเพณีในการทานซุปที่มีโมจิเป็นวัตถุดิบหลักที่เรียกว่า “โซนิ” แถมยังมีการต่อยอดโมจิด้วยการสอดไส้ต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า “ไดฟุกุ” อย่างที่นิยมในปัจจุบัน
จากที่กล่าวมาเราจะเห็นได้ว่ากรรมวิธีและวัตถุดิบหลักอย่างแป้งมีที่มาที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน อีกทั้งทางญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมในการทานขนมโมจิ หรือ เค้กข้าว กันแบบจริงจัง เพราะมีความเชื่อว่า โมจิ เป็นขนมมงคลนิยมทานในเทศกาลสำคัญ ๆ โดยเฉพาะวันขึ้นปีใหม่ และคำว่า โมจิ มาจากคำกริยาที่แปลว่า มีกินมีใช้ เสมือนเป็นการอวยพรกันและกันในครอบครัวหรือผู้ที่ได้ทานว่า ขอห้มีกินมีใช้ตลอดปีตลอดไปนั่นเอง
ส่วนการเปลี่ยนชื่อเดิมจาก ขนมเปี๊ยะนมข้น ไปเป็น ขนมโมจิ นั้น ได้มีบางแหล่งข้อมูลบอกว่า ผู้ผลิตโมจิ นครสวรรค์เจ้าใหญ่เห็นว่ามีคนหันมาทำขนมเปี๊ยะนมข้นขายกันมากขึ้น เลยเปลี่ยนชื่อสินค้าของตนเป็นขนมโมจิแทน และใช้กันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ